ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ ในคดีค้าไม้ข้ามชาติ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม แม้จะหนีเข้าป่า เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท จำได้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท จังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว ได้ร่วมสนธิกำลังจับกุม นาย ประจักษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ลูกซองเบอร์12) จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 8 นัด ยาบ้าอีกหลายร้อยเม็ด
นายพีระเมศร์ ตื้อตันสกุล ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษาที่ 13 สาขาลำปาง เผยว่า
ผู้ต้องหาที่จับได้รายนี่เป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่หลบหนีหมายจับของศาลจังหวัดลำปาง กรณีพัวพันเครือข่ายค้าไม้ข้ามชาติ ซึ่งได้หลบหนีหมายจับเมื่อเดือน สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้พยายามสืบสวนหาข่าวและพบว่าอาศัยอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง และยังมีพฤติกรรมตัดไม้ทำลายป่า เสพและค้ายาเสพติดต่อเนื่อง จนกระทั่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังออกตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ จนมาถึงที่บริเวณห้วยแม่แป้น ท้องที่บ้านแม่แป้น ม.5 ต.นาแก อ.งาว จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่ พบไม้หวงห้ามถูก ตัดทอน เป็นท่อนด
จึงกระจายกำลังโอบล้อมพื้นที่และพบชายต้องสงสัย พร้อมรถจักรยายนต์จอดพักพุ่มไม้ เจ้าหน้าสังเกตเห็นว่าชายคนดังกล่าว เป็นบุคคลตามหมายจับ พ.ร.บ.ป่าไม้ ข้ามชาติรายสำคัญที่หลบหนีตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา และแสดงตัวขอตรวจค้นและสอบสวน เบื้องต้น โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาก่อนที่จะตรวจพบ สิ่งผิดกฎหมายอีกหลายรายการ ซึ่งก็ได้ชื่นชมการทำงานขอเจ้าหน้าที่ ที่สามารถจดจำใบหน้ารูปพรรณผู้ต้องสงสัยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเน้นยำการทำงานให้ระมันระวังให้มากที่สุด เพราะส่วนใหญ่ผู้ห่อเหตุลักลอบตัดไม้ทลายป่าจะมีการใช้สารเสพติดและพกพาอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา
นายปิปปา มิลส์ รองหัวหน้าตำรวจเขตพื้นที่ ระบุว่า คดีนี้จะให้ความสำคัญกับเหยื่อผู้เสียชีวิตเป็นหลัก แต่คาดว่ากระบวนการสอบสวนในครั้งนี้จะค่อนข้างยาวนาน ขณะที่ทางสำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยตรวจสอบและพิสูจน์ตัวตนศพ พร้อมทั้งระบุว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรม
ด้าน นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเป็นโศกนาฏกรรมที่เหนือจินตนาการ และน่าเศร้าอย่างแท้จริง ขอภาวนาแด่ผู้เสียชีวิตและเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของเหยื่อผู้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ทางรัฐบาลกลางจะประสานตำรวจท้องถิ่นเร่งติดตามและสอบสวนคดีนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ระวัง! หลอกลงทุนผ่านแอปฯ ความเสียหายเกือบ 100 ล้านบาท
ผู้เสียหายทั่วไทย แจ้งความตำรวจไซเบอร์อีสานหลังถูก หลอกลงทุนผ่านแอปฯ เปิดร้านสะดวกซื้อ และซื้อสินค้าต่างๆ มูลค่าความเสียหายเกือบ 100 ล้าน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ม.ค.2565 ได้มีผู้เสียหายจากการถูก หลอกลงทุนผ่านแอปฯ ทั้งจากพื้นที่ จ.ขอนแก่น,ชัยภูมิ และ กรุงเทพฯ รวมตัวกันมาแจ้งความที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 จ.ขอนแก่น ( บก.สอท.3) เอาผิดกับกลุ่มบุคคลที่ชักชวน ให้ลงทุนผ่านแอพพลิเคชัน ซื้อขายสินค้าออนไลน์ สินค้าอุปโภค บริโภค และอื่นๆ เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด
ภายหลังเจ้าหน้าทำการตรวจสอบเอกสารพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้เสียหายตามขั้นตอน นางอรปรียา อายุ 53 ปี กล่าวว่า คนรู้จักของสามีชักชวนให้เข้าร่วมลงทุนซื้อสินค้าในรูปแบบเหรียญออนไลน์ และให้ลงทุนเปิดร้านขายสินค้า ตามขนาดร้านที่ต้องการเปิด เช่น ร้านขนาดเล็ก จำนวนเงิน 30,000 บาท ไปจนถึง ขนาดใหญ่ จำนวนเงิน 120,000 บาท
โดยบริษัทฯดังกล่าว อ้างว่า หากลงทุนซื้อเหรียญในร้านออนไลน์ยิ่งซื้อมากจะได้เงินปันผลจากการซื้อสูง หรือหากซื้อเป็นร้านค้าก็จะได้เงินปันผลสูงเช่นกัน อีกทั้งบริษัทได้จัดโปรโมชัน ว่าจะได้ค่าตอบแทนเพิ่มเป็น 2 เท่า และแบ่งจ่ายให้ทุกสัปดาห์
ระยะแรกของการลงทุนนั้น นางอรปรียา ระบุ ได้รับผลตอบแทนจริง จากนั้นจึงตัดสินใจลงทุน ด้วยการซื้อแหวนเพชรทั้งหมดรวม 6 วง ซึ่งเป็นการสั่งซื้อล่วงหน้า เพื่อสั่งผลิตแหวนตามขนาดที่ต้องการ แต่ไม่เคยเห็นแหวนเพชรที่สั่งซื้อ
จนทั้งการปันผล และการสั่งซื้อแหวน เริ่มมีปัญหา เมื่อทวงถามทางบริษัทอ้างว่าอยู่ระหว่างพัฒนาปรับปรุงแอพพลิเคชั่น กระทั่งเดือน ก.ย.2564 บริษัทได้หยุดดำเนินการ ไม่สามารถติดต่อได้ และล่าสุดบริษัทฯระบุว่าจะจ่ายในเดือน ม.ค.2565 มาเรื่อย แต่ก็ยังไร้วี่แวว จึงเชื่อว่าถูกบริษัทหลอกให้ลงทุน จึงได้สอบถามกลุ่มนักลงทุนด้วยกันซึ่งพบว่าถูกบริษัทฯกระทำในลักษณะเดียวกันเช่นกัน จึงรวมตัวกันเดินทางมาร้องเรียนและแจ้งความดำเนินคดี และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีมูลค่าความเสียหายแล้วกว่า 88 ล้านบาท
ขณะที่ น.ส.กชกร อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า มีเพื่อนบ้านแนะนำให้มาซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งในเบื้องต้นยอมรับว่าดีกว่าซื้อสินค้าตามท้องตลาด เพราะได้เหรียญที่สามารถไปแลกเป็นเงินคืนได้ ประกอบกับที่ผ่านมาโควิดระบาดหนัก ครอบครัวหารายได้อย่างยากลำบาก จึงตัดสินใจลงทุนไปเพราะว่าเป็นการซื้อสิ้นค้าที่มีกำไรและได้สินค้ามาใช้ด้วย
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป