สุดวุ่น! เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ตามล่าหนุ่มคลั่งเอา กิ่งไม้ไล่ตีหัว ประชาชน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม สำนักข่าว ABC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมนาย ไบรอั้น ทอมสัน ชายชาวอเมริกันวัย 43 ปีที่อาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ หลังจากที่ชายคนดังกล่าวถูกกล่าวหาว่าใช้กิ่งไม้ฟาดหัวของประชาชน ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้กิ่งไม้ไล่ฟาดศีรษะของประชาชนในชานชาลา รถไฟใต้ดิน
เมื่อนาย ทอมสัน ออกมาจากสถานีรถไฟ เขาก็ใช้ไม้คู่ใจฟาดหัวของประชาชนอีกคน ก่อนที่เขาจะทำร้ายร่างกายคนขับรถ และขับหนีออกจากที่เกิดเหตุไป อย่างไรก็ตาม นายทอมสันไปขับชนเข้ากับรถที่จอดอยู่สองคัน
ผู้ก่อเหตุได้ลงจากรถ และทุบกระจกหวังปล้นรถอีกคัน อย่างไรก็ตามเจ้าของรถคันดังกล่าวไม่ยอมลงจากรถ ซึ่งมีรายงานว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้กิ่งไม้ทำร้ายร่างกายประชาชนอีกสองคน ก่อนจะปล้นรถอีกคัน และขับหนีไปอีกครั้ง โดยคนขับเสียหลักและขับชนเข้ากับยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนไฟฟ้าช็อตผู้ก่อเหตุ หลังจากที่เขาไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำผู้ก่อเหตุไปตรวจสภาพทางจิต และตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายและโจรกรรมหลายกระทง
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยอีกว่าเหยื่อ 4 คนแรก มีแผลที่ศีรษะ ส่วนอีกรายแขนหัก
เภสัชสหรัฐฯ ยอมรับว่าเขาเป็นคน ทำลายวัคซีน โควิด โดยเขาเชื่อว่า วัคซีนโควิดเป็นอันตรายกับผู้ได้รับวัคซีน
เมื่อวันที่ 5 มกราคม สำนักข่าว ABC รายงานว่า นาย สตีเฟน แบรดเดนเบิร์ก เภสัชกรชาวอเมริกันวัย 46 ปีในรัฐวิสคอนซิน ได้ทำลายวัคซีนโมเดอร์นา วัคซีนต้านโควิด-19 มากกว่า 500 โดส โดยให้เหตุผลว่าวัคซีนชนิดดังกล่าวไม่ปลอดภัย และอาจเปลี่ยนพันธุกรรมได้
นาย แบรดเดินเบิร์ก ได้นำวัคซีนจำนวน 57 ขวดหรือราวๆ 570 โดสวางไว้นอกตู้เย็นของทางโรงพยาบาลเมื่อช่วงคืนวันที่ 24 และ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้วัคซีนชนิดดังกล่าวเสียและไม่สามารถใช้การได้ โดยตามปกติแล้ววัคซีนโมเดอร์นาต้องถูกแช่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิราว 2 ถึง 6 องศาเซลเซียส
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าโดสที่ได้รับความเสียหายน่าจะมีมูลค่าราวๆ 3 แสนบาท อย่างไรก็ตามในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มูลค่าของโดสจะสูงขึ้นไปอีก ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าวัคซีนได้ส่งผลอย่างที่นาย แบรดเดนเบิร์กกล่าวอ้าง ผู้ก่อเหตุมีกำหนดขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 19 มกราคมนี้
สองหนุ่มรัสเซีย ได้ออกมาฉลองปีใหม่ด้วยวิธีสุดพิเรนทร์ ด้วยการ ยิงพลุ เลียนแบบ ภาพยนตร์ แฮรี่ พ็อตเตอร์ เมื่อวันที่ 4 มกราคม สำนักข่าว อาร์ที รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรัสเซียออกตามล่า สองหนุ่มที่ยิงพลุใส่กันที่บริเวณชานเมืองของกรุงมอสโก เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย เมื่อช่วงเที่ยงคืนของปีใหม่ที่ผ่านมา
อังกฤษ สั่ง ล็อกดาวน์ หลังต้านโควิดไม่อยู่
อังกฤษ สั่ง ล็อกดาวน์ ซ้ำ หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ อังกฤษ ยังคงวิกฤติอย่างต่อเนื่อง จากการค้นพบโควิดกลายพันธุ์ในประเทศ เมื่อวันที่ 5 มกราคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการอังกฤษ ได้สั่งล็อกดาวน์อีกครั้ง หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 วิกฤติอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ามาตรการล็อกดาวน์ในครั้งนี้จะใช้จนไปถึงช่วงกลางกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
โดยนาย บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้กล่าวเตือนว่าในสัปดาห์ถัดจากนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดจะเลวร้ายลงอีก ซึ่งผู้นำอังกฤษยืนยันว่าประชาชนในกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่มแรก ได้แก่ เจ้าหน้าที่ในบ้านพักคนชรา, ประชาชนที่อายุมากกว่า 70 ปี, เจ้าหน้าที่แพทย์แถวหน้า และ ประชาชนที่เสี่ยงต่อโรคโควิด-19 เป็นอย่างมาก จะได้รับวัคซีนโดสแรกในช่วงกลางเดือนหน้า
นายจอห์นสันยังได้ย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งทันที และข้อปฏิบัติในการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นกฏหมายในช่วงเช้าของวันพุธที่จะถึงนี้ ทั้งนี้นายจอห์นสัน เชื่อว่าประเทศอังกฤษกำลังเข้าสู่การดิ้นรนครั้งสุดท้ายกับโรคโควิด-19 และโรงพยาบาลต้องเผชิญกับงานที่ยากลำบากยิ่งกว่าการแพร่ระบาดครั้งก่อนๆ
โดยคำสั่งล็อกดาวน์ครั้งนี้มีรายละเอียดดังนี้
ประชาชาห้ามออกนอกเคหสถาน เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็น โดยทางการจะอนุญาตให้ออกไปซื้ออาหาร และ ยาจำเป็น, ออกกำลังกาย และอนุญาตให้ประชาชนที่ไม่สามารถทำงานจากบ้านไปทำงานได้
โรงเรียนและมหาวิทยาลัยปิด และให้เรียนจากที่บ้าน ทั้งนี้สถานรับเลี้ยงเด็กจะยังเปิดทำการตามปกติ
จะไม่มีการสอบปลายภาคในช่วงฤดูร้อนนี้
ร้านอาหารสามารถขายแบบเดลิเวอรี่ได้ แต่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทุกรูปแบบ รวมถึงการขายแบบเดลิเวอรี่ด้วย
สนามกีฬาทุกชนิดต้องปิดให้บริการ
งดการแข่งขันระดับสมัครเล่นทุกชนิด แต่การแข่งขันระดับสูงเช่น พรีเมียร์ลีค จะยังคงแข่งตามปกติ
นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสกอตแลนด์ก็ได้ออกมาตรการล็อกดาวน์เช่นเดียวกัน
โดยชายทั้งสองได้ออกมาฉลองด้วยการยิงพลุใส่กัน ท่ามกลางประชาชนใกล้เคียงที่ออกมาส่งเสียงเชียร์ ซึ่งคลิปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่เป็นอย่างมากในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งชาวเน็ตได้ชี้ว่าการยิงพลุใส่กันของทั้งสองคล้ายคลึงกับฉากการต่อสู้กันระหว่าง แฮรี่ พ็อตเตอร์ และ โวลเดอมอร์ จากภาพยนตร์ชื่อดังเรื่องแฮรี่ พ็อตเตอร์
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป